วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เมืองชะโนด


ตำนานพญานาคคำชะโนด

อำเภอบ้านดุงเป็นดินแดนเมืองพญานาค และเป็นที่คั้ง "คำชะโนด"หรือ วังนาคินทร์

เมืองชะโนด ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ของอำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี พื้นที่มีสภาพเป็นน้ำคลำ มีต้นไม้ชนิดหนึ่งเกิดขึ้นเต็มบริเวณเนื้อที่ประมาณ ๕๐ ไร่ ต้นไม้ชนิดนี้เรียกว่า ต้นชะโนด มีลักษณะคล้ายต้นตาล ขนาดเท่ากับต้นมะพร้าว
ลำต้นมีกาบห่อหุ้ม และตามกาบรอบๆ ต้น มีหนามยาวและแหลมคม น่ากลัวมาก เมื่อเวลาต้องลมจะเกิดมีเสียง หวือๆ หวืนๆ
มีผลเป็นพวงเหมือนผลมะพร้าว แต่ผลเล็กกว่าองุ่นนิดหน่อย บริโภคไม่ได้เพราะจะมีอาการคันปาก

เนื่องจากต้นชะโนดนี้เกิดขึ้นในบริเวณที่ล้อมรอบๆ ไปด้วยเนินสูง แล้วลาดไปสู่ทุ่งหญ้า ซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เป็นเวลาหลายพันปี คนแก่จึงเรียกว่า เมืองชะโนด คงจะเรียกชื่อตามต้นไม้ชนิดนี้เอง

ตำนานคำชะโนด เมืองพญานาค มีเรื่องเล่ากันว่า แต่ก่อนหนองกระแส ซึ่งอยู่ตอนเหนือของประเทศลาว อยู่ตอนใต้ของประเทศจีน เป็นเมืองที่พญานาคครองอยู่โดยแบ่งเป็น ๒ ส่วน ส่วนหนึ่งเจ้าพ่อศรีสุทโธ เป็นหัวหน้าครองอยู่ อีกส่วนหนึ่งหัวหน้าผู้ครอง ชื่อ พญาสุวรรณนาค มีบริวารฝ่ายละ ๕๐๐๐ คน เท่าๆ กัน พญานาคทั้งสองเป็นเพื่อนกัน มีความรักสามัคคีกันมาโดยตลอด
ต่อมาเกิดผิดใจกัน เรื่องการแบ่งอาหาร จนเกิดสงครามขึ้น มีการระดมไพร่พลเข้าต่อสู้กัน ทั้งสองฝ่ายรบกันอยู่นาน ๗ ปี
ต่างฝ่ายต่างเมื่อยล้าเอาชนะกันไม่ได้

การต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายของพญานาคทั้งสอง ทำให้เดือดร้อนไปทั้งสามภพ คือ บาดาล มนุษย์ และสวรรค์ พื้นโลกสะเทือน เกิดแผ่นดินไหวไปทั่ว ความเดือดร้อนทราบถึงพระอินทร์ จึงได้เสด็จลงมายังหนองกระแส แล้วตรัสเป็นโองการให้ทั้งสองฝ่ายหยุดรบกัน ให้ถือว่าสองฝ่ายเสมอกันไม่มีใครแพ้-ชนะ ให้สร้างแม่น้ำคนละสายออกหนองกระแส ใครสร้างถึงทะเลก่อนจะให้ปลาบึกไปอยู่ในแม่น้ำนั้น

พญาสุทโธนาค จึงพาบริวารสร้างแม่น้ำ มุ่งไปทางทิศตะวันออกของหนองกระแส เมื่อถึงตรงไหนมีภูเขาขวางอยู่แม่น้ำจะคดโค้งไปตามภูเขา เพราะพญาสุทโธเป็นนาคใจร้อน แม่น้ำนี้เรียกว่าแม่น้ำโขง คำว่า โขง มาจากคำว่าโค้ง หรือไม่ตรงนั่นเอง

บ่อน้ำคำชะโนด

บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์กลางดงคำชะโนด เชื่อกันว่าเป็นทางขึ้นลงของพญาสุทโธนาค เสด็จจากเมืองบาดาลขึ้นมาเมืองมนุษย์และขึ้นสวรรค์ จึงมีความเชื่อว่าน้ำในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ มีผู้คนนำไปรักษาโรคโดยการดื่ม อาบ รักษาได้สารพัดโรค ตลอดจนรักษาโรคจิต โรคบ้าทั้งหลายได้ด้วย

สมัยก่อนลักษณะเป็นบ่อรูปทรงกลม แต่ปัจจุบันได้ปรับปรุงเป็นบ่อสี่เหลี่ยมจัตุรัส เมื่อปี ๒๕๓๐ กว้างประมาณ ๕ x ๕ เมตร
ขอบบ่อหล่อคอนกรีตโดยรอบสูง ๖๐ ซ.ม. รอบบ่อเป็นลานคอนกรีต ซึ่งจังหวัดอุดรธานีได้เลือกเอาน้ำในบ่อศักดิ์สิทธิ์นี้
ร่วมในพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ ๕ ธันวาคม ณ มณฑลพระราชพิธีท้องสนามหลวง ทุกปี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น